ภาษา : ไทย
เข้าสู่ระบบ


รับข่าวสาร
อีเมล์ของคุณ :
 สมัคร    ยกเลิก




ติดต่อเรา


สังคมออนไลน์
  


  QR Code


สถิติของเว็บไซต์
01/08/2555
05/03/2567
6791406
373554


ออนไลน์
ผู้ใช้งานขณะนี้ :
 
 บุคคลทั่วไป  6 ราย


บทลงโทษการหลบเลี่ยงภาษีเป็นโทษทางอาญา มีโทษถึงขั้นติดคุก


มาตรา 37 ผู้ใด 

(1)โดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจ แจ้งข้อความเท็จ หรือให้ถ้อยคำเท็จหรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จหรือนำพยานหลักฐานเท็จมาแสดง เพื่อหลีกเีลี่ยงการเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ หรือ

(2)โดยความเท็จ  โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใด ทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยานหลีกเลี่ยงหรือพยานหลีกเลี่ยงหรือพยานหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรลักษณะนี้

ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงสองแสนบาท

 

มาตรา 37 ทวิ ผู้ใด โดยเจตนาละเลย ไม่ยื่นรายการที่ต้องยื่นตามลักษณะนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ต้องระวางโทษปรับไ่ม่เกินห้าพ้นบาท หรือจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ

 

หนังสือตอบข้อหารือกรมสรรพากร

เลขที่หนังสือ : กค0706/9777

วันที่ : 2 พฤศจิกายน 2547

มาตรา :  มาตรา 37 , มาตรา 37 ทวิ , มาตรา 69 ทวิ , มาตรา 77/1(10) , มาตรา 77/2(1)

เรื่อง :  ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์ การเสียภาษีอากร กรณีการทำสัญญาก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกของกรุงเทพมหานคร

ข้อหารือ : เนื่องจากกรุงเทพมหานคร ได้ประกวดราคาก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก  จำนวน 15 แห่ง ซึ่งในการทำสัญญาก่อสร้างได้แยกสัญญาออกเป็น 2 ส่วน คือสัญญาก่อสร้างสะพานและสัญญาการติดตั้ง คณะทำงานฯ จึงขอหารือว่าการจัดเก็บภาษีอากรในสัญญาการติดตั้ง คณะทำงานฯ จึงขอหารือว่าการจัดเก็บภาษีอากรในสัญญาทั้ง 2 ส่วน มีความแตกต่างหรือไม่ และบทลงโทษของการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรมีอย่างไรบ้าง

 

แนววินิจฉัย :

1.กรณีกรุงเทพมหานครได้ประกวดราคาก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก จำนวน 15 แห่ง โดยได้แยกสัญญาก่อสร้างเป็น 2 ส่วน คือ สัญญาก่อสร้างสะพานและสัญญาการติดตั้ง กรณีดังกล่าวมีภาระภาษีอากรดังต่อไปนี้

1.1ภาษีเงินได้นิิติบุคคล กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นผู้รับจ้างตามสัญญาดังกล่าวกับกรุงเทพมหานคร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องนำรายได้ตามสัญญาดังกล่าวมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฏากร

1.2ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สัญญาก่อสร้างสะพานและสัญญาการติดตั้งดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นสัญญาจ้างทำของตามมาตรา 587 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หากกรุงเทพมหานคร จ่ายค่าจ้างตามสัญญาดังกล่าวให้กับบริษัทหรือห้างหุ้ส่วนนิติบุคคลผู้รับจ้าง ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 1.0 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

1.3ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีรายรับจากการก่อสร้างตามสัญญาก่อสร้างสะพานและสัญญาการติดตั้ง เข้าลักษณะเป็นการให้บริการ โดยผู้ประกอบการ ตามมาตรา 77/1 (10) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้รับจ้างอยู่ในบังคับต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/2(1) แห่งประมวลรัษฎากรและมีสิทธิเรียกเก็บมูลค่าเพิ่มจากกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มพร้อมกับชำระภาษี(ถ้ามี) ต่อกรมสรรพกรเป็นรายเดือนภาษีตามมาตรา 83 แห่งประมวลรัษฎากร

1.4อากรแสตมป์ สัญญาก่อสร้างสะพานและสัญญาการติดตั้งเป็นสัญญาตามลักษณะแห่งตราสาร 4. แจ้งทำของ ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้รับจ้างต้องเสียอากรโดยทุกจำนวนเงิน 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท ของมูลค่าสัญญาเสียอากร 1 บาท

 

 2.กรณีการหลีกเลี่ยงภาษีมีบทกำหนดโทษทางอาญาดังต่อไปนี้

2.1กรณีผู้เสียภาษีโดยรู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจ แจ้งข้อความเท็จหรือให้ถ้อยคำเท็จหรือตอบคำถามด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จแสดงเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร หรือโดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกันหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากรต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนถึงเจ็ดปีและปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองแสนบาททั้งนี้ ตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร

2.2 กรณีผู้เสียภาษีเจตนาละเลยไม่ยื่นรายการที่ต้องยื่นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาทหรือจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือทั้งปรับทั้งจำ ทั้งนี้ตามมาตรา 37 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร อนึ่ง กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีมิได้ชำระภาษีหรือชำระไว้ไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ผู้มีหน้าที่เสียภาษียังต้องรับผิดในจำนวนภาษีอากรที่ไม่ชำระหรือชำระไว้ไม่ครบถ้วนพร้อมด้วยเบี้ยปรับและหรือเงินเพิ่มตามกฎหมายด้วย

(จาก :www.rd.go.th)